นางฐิติมา นราพงศ์ จัดหางานจังหวัดลำพูน รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามนโยบายรัฐบาล ที่ให้ความสำคัญกับการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์โควิด -19 คลี่คลายลง สนับสนุนการจ้างงานระหว่างภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้จบการศึกษาใหม่ มุ่งเน้นให้ คนไทยต้องมีงานทำในทุกพื้นที่ สนับสนุนการจ้างงานที่มั่นคงและต่อเนื่อง เน้นเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ เพิ่มศักยภาพแรงงานและผู้ประกอบการในการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืนเพื่ออนาคตของประเทศไทย โดยจ้างงานเด็กจบใหม่ จำนวน 260,000 อัตรา ซึ่งโครงการส่งเสริมการจ้างงานใหม่สำหรับ ผู้จบการศึกษาใหม่โดยภาครัฐและเอกชน มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือการจ้างงานให้ผู้จบการศึกษาใหม่ได้มีงานทำ และช่วยเหลือสถานประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลให้การอุดหนุนเงินค่าจ้างจำนวนร้อยละ 50 ของเงินเดือนตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท ต่อเดือนต่อคน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 – 30 กันยายน 2564 พร้อมทั้งได้กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ไว้ดังนี้
ผู้จบการศึกษาใหม่ที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการฯ

คุณสมบัติ
- มีสัญชาติไทยและไม่เคยอยู่ในระบบประกันสังคม ยกเว้นกรณีผู้จบการศึกษาใหม่ที่อยู่ในระบบประกันสังคม เนื่องจากการทำงานนอกเวลาเรียน (Part time) ในระหว่างที่กำลังศึกษา
- สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)
- มีอายุไม่เกิน 25 ปี หรืออายุเกินกว่า 25 ปี ซึ่งจบการศึกษาประจำปีการศึกษา พ.ศ. 2562 หรือ จบในปี พ.ศ. 2563
เงื่อนไข

- ผู้จบการศึกษาใหม่/ลูกจ้าง จะต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบที่กรมการจัดหางานได้จัดเตรียมไว้ให้
- ผู้เข้าร่วมโครงการฯยอมรับค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา ดังนี้ ปริญญาตรีไม่ต่ำกว่าเดือนละ 15,000 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 11,500 บาท ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 9,400 บาท และมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8,690 บาท ทั้งนี้ ต้องไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของจังหวัด ตามประกาศคณะกรรมการค่าจ้าง (อัตราค่าจ้างขั้นต่ำจังหวัดเชียงใหม่ 325 ต่อวัน 9,750 บาทต่อเดือน)
- ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย ประเภทออมทรัพย์ ในนาม “ชื่อลูกจ้างเข้าร่วมโครงการฯ (Copayment)” เพื่อรับโอนค่าจ้างจากนายจ้างและรับเงินสนับสนุนจากกรมการจัดหางาน
- นายจ้างจ่ายค่าจ้างเดือนละ 1 ครั้ง (ภายในสิ้นเดือน) ให้แก่ลูกจ้างผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย และกรมการจัดหางานจะโอนเงินอุดหนุนค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยให้ลูกจ้างตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน) ต่อเดือนต่อคน ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป
- ผู้เข้าร่วมโครงการยินยอมให้นายจ้างหักเงินสมทบจากค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับตามสัญญาจ้าง ตามอัตราเงินสมทบที่กำหนด เพื่อนำส่งเงินสมทบให้แก่สำนักงานประกันสังคม
นายจ้าง/ผู้ประกอบการ
คุณสมบัติ – ต้องอยู่ในระบบประกันสังคม

เงื่อนไข
- นายจ้างต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ผ่านระบบที่กรมการจัดหางานได้จัดเตรียมไว้ให้
- ห้ามเลิกจ้างลูกจ้างเดิมเกินกว่าร้อยละ 15 ภายในระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ
- มีความพร้อมในการจ้างงานผู้สำเร็จการศึกษาใหม่ โดยจ่ายค่าจ้างตามวุฒิการศึกษา
- นายจ้างจ่ายค่าจ้างเดือนละ 1 ครั้ง (ภายในสิ้นเดือน) ให้แก่ลูกจ้างผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย และกรมการจัดหางานจะโอนเงินอุดหนุนค่าจ้างผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทยให้ลูกจ้างตามวุฒิการศึกษา สูงสุดไม่เกิน 7,500 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยบาทถ้วน) ต่อเดือนต่อคน ภายในวันที่ 5 ของเดือนถัดไป
- นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการไม่เกินวันสิ้นเดือนของทุกเดือน หากจ่ายค่าจ้างในเดือนใดหลังจากสิ้นวันสิ้นเดือนแล้ว กรมการจัดหางานจะไม่จ่ายเงินอุดหนุนค่าจ้างร้อยละ 50 ให้ลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการ โดยให้เป็นหน้าที่ของนายจ้างต้องเป็นผู้จ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนให้แก่ลูกจ้างในเดือนนั้นๆ
- นายจ้างต้องปฏิบัติต่อลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการตามสิทธิและหน้าที่ที่กำหนดไว้ในกฎหมายแรงงานทุกประการ เช่น การส่งเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนเงินทดแทน จัดสวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้ง จัดให้มีมาตรฐานความปลอดภัยในการทำงาน จ่ายค่าชดเชย และเงินอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อมีการเลิกจ้าง เป็นต้น
- กรณีครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาจ้างงาน หรือสิ้นสุดโครงการแล้ว หากนายจ้างให้ลูกจ้างทำงานต่อไป ให้นายจ้างรับผิดชอบค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างทั้งหมด
- กรณีมีการเลิกจ้าง/ลูกจ้างลาออก ก่อนวันที่ 30 กันยายน 2564 นายจ้างต้องแจ้งให้กรมการจัดหางานทราบ
- นายจ้างต้องนับรวมลูกจ้างที่เข้าร่วมโครงการเป็นลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ โดยบังคับใช้กับนายจ้างที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป กำหนดให้ต้องฝึกอบรมหรือส่งลูกจ้างเข้าทดสอบมาตรฐาน ฝีมือแรงงานแห่งชาติไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของลูกจ้างทั้งหมด หากไม่ดำเนินการหรือดำเนินการไม่ครบ ตามสัดส่วนที่กำหนด ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนพัฒนาฝีมือแรงงาน
- หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขจะถูกยกเลิกเข้าร่วมโครงการ และต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้าง ที่เข้าร่วมโครงการทุกรายเต็มจำนวน นับตั้งแต่เดือนที่ผิดเงื่อนไข
ทั้งนี้ หากพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการฯมีการร่วมกันหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ จะถูกยกเลิกเข้าร่วมโครงการและต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลอุดหนุนให้ทั้งหมดคืน รวมทั้งถูกดำเนินการ ตามกฎหมายต่อไปด้วย จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนนายจ้าง/สถานประกอบการและผู้จบการศึกษาใหม่ที่สนใจและมีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น ลงทะเบียนผ่านระบบได้ที่ www.จ้างงานเด็กจบใหม่.com สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการจัดหางานเพื่อคนไทย สำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-112744 – 6 หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน