จุรินทร์ขึ้นเชียงใหม่ เร่งสะสางปัญหากระเทียมภาคเหนือถูกกดราคาเชิงรุก

วันนี้(23 มกราคม 2564) เวลา 12.00 น. ณ หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ได้เดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อร่วมประชุมวางแผนเชิงรุกรองรับการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร (กระเทียม) โดยมีนายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ให้การต้อนรับพร้อมหน่วยงานทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง


ภายหลังการประชุม นายจุรินทร์ กล่าวว่าในภาพรวมผลผลิตกระเทียมในแต่ละปีจะมีประมาณ 80,000 ตัน คิดเป็นกระเทียมสด 230,000 ตัน บริโภคภายในประเทศ 170,000 ตัน จึงนำเข้าประมาณ 60,000 ตัน การนำเข้าเป็นไปตามข้อตกลงด WTO

โดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ และมีภาษีนำเข้าร้อยละ 57 ปัญหาที่เกิดขึ้นกระทรวงพาณิชย์เป็นห่วงว่าผู้ปลูกกระเทียมจะได้ราคาไม่ดีเท่าที่ควรเพราะมีข่าวว่ามีการตกเขียวกระเทียมสดล่วงหน้าในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่งคิดว่าเป็นราคาที่ต่ำเกษตรกรควรได้ราคาดีกว่านี้


กระเทียมกำลังจะออกมากในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จึงประชุมแก้ปัญหาเชิงรุกล่วงหน้าโดยกรมการค้าภายในประสานงานกับทีมเซลล์แมนจังหวัดที่พาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชนจัดให้มีการเจรจาซื้อขายกระเทียมสดล่วงหน้าในราคาที่คิดว่าเป็นธรรม 8 สัญญา มีภาคเอกชน 8 บริษัทเป็นผู้ซื้อและกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่มเป็นผู้ขายในราคากระเทียมสดกิโลกรัมละ 13.50 บาท เป็นราคาชี้นำตลาดในฤดูกาลผลิตนี้

” ให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดร่วมกับภาคเอกชนและทุกฝ่ายทำสัญญาเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้เกษตรกรชาวไร่กระเทียมขายกระเทียมได้ในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้นกว่าราคาตกเขียวที่กิโลกรัมละ 8 บาท และกำหนดมาตรการเสริมในช่วงที่กระเทียมออกมาก มีมาตรการชะลอขาย ถ้าเกษตรกรผู้รวบรวมกระเทียมหรือสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชะลอขายกระทรวงพาณิชย์จะมีวงเงินช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ผู้รวบรวมกระเทียม ประมาณ 6 เดือน

เมื่อราคาดีค่อยขายช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และมาตรการทางกฎหมายให้มีการบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดโดยเฉพาะปัญหาการลักลอบการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศวันนี้มีการสั่งการให้กรมศุลกากรตำรวจและฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเคร่งครัดการแก้ปัญหาลักลอบการนำเข้า จะนำเรื่องนี้ไปเรียนให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งในวันอังคารให้ท่านนายกได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ากระเทียมต่อไป

เข้มงวดการออกไปอนุญาตนำเข้ากระเทียมให้มีการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของกระเทียมที่นำเข้า เข้มงวดการตรวจสอบการขนย้าย หากตรวจพบจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

มาตรการระยะยาวที่กระทรวงเกษตรฯจะเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาพันธุ์กระเทียมให้กระเทียมไทยเป็นกระเทียมที่มีคุณภาพ เรียกว่า “ใหญ่ ง่าย ดี“กลีบใหญ่ แกะง่าย และมีคุณภาพดี รสชาติดี และเร่งรัดการส่งเสริมการปลูกกระเทียมออร์แกนนิคและเปิดตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่งเสริมการนำกระเทียมไปสร้างนวัตกรรมทางอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าโดยเร่งรัดให้ อย. ออกใบอนุญาตให้กับนวัตกรรมเหล่านี้ต่อไป ” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าว
ทั้งนี้ได้มีการทำ MOU รับซื้อกระเทียมนำร่องเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้แก่
ผู้รับซื้อกระเทียม
- บริษัท ตะวันพืชผล จำกัด
- บริษัท ยิ่งไพศาลการเกษตร จำกัด
- ร้านทองคำ บุญช่วยเครื่องต้มยำ
- บริษัท บีวายที ฟู้ดซัพพลาย จำกัด
- บริษัท มาตา เทรดดิ้ง จำกัด
- นายทรงศักดิ์ สาระวรรณา
ผู้ขาย กลุ่มเกษตรกรจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน
1.วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมบ้านเป้า
2.วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกระเทียมปลอดภัยบ้านม่วงคำ
3.วิสาหกิจชุมชนเครือข่ายผู้ปลูกกระเทียมอำเภอเวียงแหง
4.กลุ่มกระเทียมแปลงใหญ่อำเภอเชียงดาว
5.วิสาหกิจชุมชนพัฒนาผลิตภัณฑ์พืชผักสมุนไพรและผลไม้จังหวัดลำพูน
6.กลุ่มแปลงใหญ่กระเทียมและหอมแดงบ้านใหม่สวรรค์ หมู่11
7.วิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกหัวพันธุ์หอมแดงและกระเทียมบ้านโฮ่ง
พัชรินทร์ คันธรส/นที บุญมี ข่าวไทยนิวส์/ข่าวมุมเหนือ