พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปติดตามความคืบหน้าการคลี่คลายคดีค้าอาวุธสงคราม ที่ใช้วิธีการส่งผ่านบริษัทรับส่งพัสดุเอกชน มีที่มาจากต้นทางจังหวัดนครปฐม จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ผ่านมาปลายทางที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อส่งต่อไปให้กับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน


โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28-29 มีนาคม ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตรวจพบลูกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ที่ใช้กับปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติรุ่น M16 จำนวน 6,000 นัด ลูกระเบิดขว้างสังหารบุคคล รุ่น K 75 จำนวน 115 ลูก ในกล่องพัสดุ จากนั้น ได้ขยายผลไปจับนายมโนปกรณ์ สั่งสอน อายุ29 ปี ผู้ติดต่อขอรับพัสดุ และนายทรงศักดิ์ สิริชัยรุ่งเจริญ อายุ 31 ปี คนขับรถตู้ขนส่งสินค้าไปเมียนมา

โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด ที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฏหมาย”


จากการตรวจสอบพัสดุของกลางและสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้ว กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย ได้ประสานไปยังกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 และภาค 8 ขยายผลนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 4 คนคือ นายชิติพัทธ์ โชวมณี อายุ 31 ปี นายภัคเมศร์ กีรติธัญญศิลป์ อายุ 28 ปี ซึ่งจับได้ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม นายธีรพล อรัญญพฤกษ์ อายุ 28 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และนางสาวพิชญาภัค กลองตัน อายุ 32 ปี จับได้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา


โดยผู้ต้องหาที่จับกุมได้เพิ่มมานี้ แบ่งหน้าที่กันเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกส่งของกลางจากพื้นที่ภาคใต้มาที่ภาคกลาง และกลุ่มที่ 2 ส่งของกลางจากภาคกลางไปที่ภาคเหนือ ปลายทางที่อำเภอแม่สาย


พลตำรวจเอก สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผธ้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานโดยตรวจสอบเส้นทางของพัสดุใน 3 จุด คือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดนครศรีธรรมราชแล้ว ได้พบหลักฐานที่เชื่อถือได้ กระทั่งศาลได้อนุมัติออกหมายจับ และเมื่อจับกุมตัวได้ ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ส่งพัสดุที่พบของกลางจริง

โดยต้นทางของของกลางในเบื้องต้นเชื่อว่า น่าจะนำเข้ามาใช้ในทางราชการ แต่ยังต้องตรวจสอบล็อตนับเบอร์ของระเบิดอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ส่วนปลายทางจะไปส่งให้กับกลุ่มใดในประเทศเพื่อนบ้านนั้นยังไม่สามารถระบุได้ เจ้าหน้าที่จะได้ประสานข้อมูลกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างใกล้ชิดต่อไป
///////////////
Like (0)