4 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเวลา 23.00 น.ที่ผ่านมาทาง พ.ต.อ.สาคร สุขภูมิพงศ์ ผกก.สภ.เชียงคำ จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีร้านอาหารแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม.5 ต.อ่างทอง อ.เชียงคำ จ.พะเยา นำสาวต่างด้าวจาก สปป.ลาวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้จึงได้มีการประสานไปยังฝ่ายปกครอง อ.เชียงคำเพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้ทันที โดยทางนายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำทราบเรื่องจึงสั่งการให้นายรุ่งทวี แก้วคำปา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงพร้อมกำลัง อส.ส่วนหนึ่งลงพื้นที่และบูรณาการทำงานร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงคำทันที เมื่อไปถึงร้านอาหารแห่งนี้พบว่ามีการให้บริการทั้งอาหารและห้องคาราโอเกะจึงได้ทำการตรวจค้นในป้องปรามปัญหาที่ไม่พึงประสงค์ 6 เรื่อง ได้แก่ ยาเสพติด,การค้ามนุษย์, การครอบครองและพกพาอาวุธปืน,การพนัน,การดำเนินการติดตามและเฝ้าระวังผู้มีอิทธิพล,สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการฯ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้กระทำผิดได้ 2 รายพบเป็นสาวม้งอายุ 19 ปี ทั้งนี้ทั้ง 2 ไม่สามารถแสดงเอกสารในการเข้าเมืองอย่างถูกต้องให้กับเจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไว้เพื่อทำการสอบสวนอีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัว น.ส.เอ อายุ 32 ปีเจ้าของร้านเพื่อดำเนินคดีในเรื่องนี้ด้วย
พ.ต.อ.สาคร กล่าวว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีพลเมืองดีที่เห็นความผิดปกติของร้านดังกล่าวด้วยการที่ทางร้านได้นำเด็กสาวซึ่งเหมือนไม่ใช่คนไทยและคนในพื้นที่เข้ามาทำงาน ทำให้เกรงว่าจะเป็นการลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย ตนจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด สวป.ลงพื้นที่เพื่อตรวจค้นและหากพบผู้กระทำผิดก็จับกุมได้ทันที ซึ่งเหตุการณ์นี้สามารถควบคุมตัวสาว สปป.ลาวที่เป็นคนม้งได้ 2 ราย โดยทั้ง 2 ทราบต่อมาว่าเป็นสาวที่อาศัยอยู่ในเมืองคอบ แขวงไชยบุรี สปป.ลาว ซึ่งพื้นที่แห่งนี้ติดกับชายแดน ไทย – ลาว บ้านฮวก อ.ภูซางโดยจากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งคู่ได้มาทำงานที่นี่สักพักหนึ่งแล้ว ทั้งนี้ตนได้กำชับให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนโดยละเอียดและแจ้งข้อหาในส่วนของเจ้าของร้านในเรื่องของ “รับคนต่างด้าวเข้าทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานและให้บุคคลต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม” ส่วนสาว 2 รายที่ถูกจับกุมนั้นได้แจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งจะได้ทำการส่งฟ้องศาลและผลักดันให้กับประเทศกันต่อไป
ด้านนายธวัช กล่าวเสริมว่า ในการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นนโยบายหลักของทางรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยที่มีการสั่งให้ปราบปรามการกระผิด 6 เรื่องด้วยกัน โดยในเรื่องของแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบมาทำงานในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ อ.ภูซางซึ่งติดกับชายแดน สปป.ลาวและ อ.เชียงคำ ทั้งนี้ตนได้มีการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายเพื่อที่จะไม่ให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการในการตรวจตราอย่างเข้มงวดกันต่อไป ทั้งนี้สำหรับสาวม้ง 2 รายที่ถูกจับกุมนี้ทางพนักงานสอบสวนได้บอกว่าทั้งคู่ฟังภาษาไทยไม่ออกและเขียนไม่ได้จึงต้องใช้ล่ามมาแปลภาษสำหรับในการสอบสวน ซึ่งหลังจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะดำเนินคดีและผลักดันให้กับประเทศกันต่อไป
ล่าสุดทาง น.ส.เอ เจ้าของร้านอาหารที่ถูกจับกุมนั้นได้เล่าว่า หญิงสาวชาวม้งทั้ง 2 รายที่ถูกจับกุมครั้งนี้เห็นว่าทั้งคู่ได้เดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติของบ้านฮวกมาเที่ยวงานปีใหม่ม้งในพื้นที่ อ.เชียงคำและ อ.ปง โดยหลังจากนั้นมีผู้ชายวัยรุ่นได้ชวนมาเที่ยวร้านตน ต่อมาถูกผู้ชายรายนี้แอบย่องหนีไปจนทิ้งสาว 2 รายนี้ไว้ที่ร้านตนและสุดท้ายตำรวจกับเจ้าหน้าที่ปกครองมาพบพอดี ทั้งนี้ตนขอปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้จ้างทั้งคู่มาทำงานด้วย ทั้งนี้จะขอต่อสู่คดีกันต่อไป
อนันต์ ข่าวพะเยา
Like (0)
